ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change Conference of the Parties: UNFCCC COP) ครั้งที่ 26 (COP26) ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันโอชา ได้ประกาศเจตนารมณ์ว่าไทยพร้อมยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่ด้วยทุกวิถีทาง เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ. 2065 และด้วยการสนับสนุนจากความร่วมมือระหว่างประเทศ และกลไกภายใต้กรอบอนุสัญญาฯ ไทยจะยกระดับเป้าหมายการมีส่วนร่วมของประเทศ (Nationally Determined Contributions : NDC) ขึ้นเป็นร้อยละ 40 ได้ ซึ่งจะนำไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ภายในปี ค.ศ. 2050

ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เป็นการดำเนินกิจกรรม โครงการ หรือกิจกรรมขององค์กร หน่วยงานหรือประเทศ ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยมีแนวทาง คือ การลด CO2 ที่ต้นทาง เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียนแทนฟอสซิล และการชดเชยคาร์บอนเครดิต (Carbon Offset) โดยการลงทุนในโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสภาพภูมิอากาศ เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

อุตสาหกรรมยานยนต์ถือเป็นหนึ่งในวิถีแห่งการเดินทาง (Mobility) ที่จะต้องปรับและพัฒนาเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีให้สามารถตอบสนองต่อเป้าหมายของการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนเพื่อช่วยการลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิกาศ จึงเป็นที่มาของการสัมมนาทางวิชาการ Automotive Summit ในหัวข้อ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน : จุดเปลี่ยนของยานยนต์แห่งอนาคต”

Co-organized By:

สถาบันยานยนต์
บริษัท อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ จำกัด

งานสัมมนานี้เหมาะกับใคร

ผู้บริหารในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วน และอุตสาหกรรมสนับสนุน
ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์และ ชิ้นส่วนร่วมทั้งผู้รับจ้างผลิต
สมาชิกและผู้บริหารในสมาคมหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง
บุคลากรภาครัฐจากกระทรวงและองค์กร สถาบันที่เกี่ยวข้อง
สื่อมวลชน

ประโยชน์ที่จะได้รับจากงานสัมมนา

มีโอกาสที่จะได้รับความรู้ จากแนวคิดและเทคโนโลยีของบริษัทผู้ประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์
สร้างเครือข่ายกับระดับผู้บริหาร ทั้งผู้ประกอบการและผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ